เลือกทานอาหารเสริมกระดูกและข้อยังไงถึงดีที่สุดต่อร่างกาย

โรคกระดูกพรุน เป็นหนึ่งในโรคที่มีคนเป็นเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยจะพบมากในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนซึ่งหากไม่ดูแลให้ดีอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวได้ ดังนั้นการทานอาหารเสริมกระดูกและข้อจึงกลายเป็นสิ่งจำเป็นที่ควรจะต้องทำ โดยควรที่จะต้องเร่งเสริมแคลเซียมป้องกันการยุบตัวก่อนวัย 30 ที่เป็นช่วงที่กระดูกแข็งแรงที่สุด ด้วยการเลือกทานอาหารเสริมกระดูกที่ควรมีส่วนประกอบต่างๆ ดังนี้ที่จะช่วยเสริมสร้างและป้องกันการเสื่อมสภาพของกระดูกและข้อ

อาหารเสริมกระดูกและข้อที่ควรทานให้บ่อย

1. แคลเซียม มีหน้าที่ในการเสริมสร้างกระดูก อีกทั้งยังช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอให้กับกระดูก และข้อ

2. วิตามินดี ช่วยให้ดูดซึมตัวแคลเซียมได้ดียิ่งขึ้น

3. แมกนีเซียม เป็นตัวช่วยในการนำแคลเซียม ไปสู่เนื้อเยื่อต่างๆ อย่างถูกต้องเหมาะสม ช่วยให้แคลเซียมเข้าสู่เซลล์กระดูกและป้องกันไม่ให้แคลเซียม ไหลเข้าสู่เนื้อเยื่ออ่อนเช่นกล้ามเนื้อ หรือ เนื้อเยื่อ อื่นๆ

4. คอลลาเจน ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของข้อต่อ และรักษาความยืดหยุ่นของข้อและกระดูก

5. กลูโคซามีน ช่วยบรรเทาอาการปวดข้อและเสริมสร้างข้อต่อ

6.แคลเซียม เป็นสารอาหารที่สำคัญที่สุดสำหรับกระดูก ช่วยเสริมสร้างและรักษาความแข็งแรงของกระดูก ควรเลือกแคลเซียมที่มีการดูดซึมดี เช่น แคลเซียมซิเตรต

7.คอนโดรอิติน ช่วยรักษาเนื้อเยื่อกระดูกอ่อนและลดอาการเจ็บของข้อ

8.วิตามินเค 2 ช่วยในการนำแคลเซียมไปใช้ในกระดูก และช่วยลดการสะสมของแคลเซียมในหลอดเลือด

9.โอเมก้า 3 มีส่วนช่วยในการลดการอักเสบและอาการเจ็บของข้อ

การดูแลรักษาและป้องกัน

  • การออกกำลังกาย การเคลื่อนไหวเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของข้อ
  • การพักผ่อน ให้ข้อและกระดูกได้พักเพื่อลดการอักเสบและการบาดเจ็บ
  • การใช้อุปกรณ์สนับสนุน เช่น ผ้าพันข้อ เทปพยุงข้อ หรือลูกประคบ
  • การรับประทานอาหารที่เหมาะสม อาหารที่มีแคลเซียมและวิตามินดี
  • การปรึกษาแพทย์ การรับคำแนะนำและการรักษาจากผู้เชี่ยวชาญ

หากคุณมีอาการกระดูกและข้อที่มีปัญหา ควรปรึกษาแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสม

อาการกระดูกและข้อมีปัญหาสามารถเกิดขึ้นได้หลายแบบ ขึ้นอยู่กับสาเหตุและบริเวณที่ได้รับผลกระทบ บางอาการที่พบบ่อย ได้แก่

  • ปวดข้อและกระดูก มักเป็นผลมาจากการอักเสบ การบาดเจ็บ หรือโรค เช่น ข้ออักเสบ (arthritis) และข้อเสื่อม (osteoarthritis)
  • บวมและแดง มักเกิดจากการอักเสบหรือการติดเชื้อ
  • ข้อฝืดหรือติดแข็ง มักเกิดขึ้นเมื่อตื่นนอนตอนเช้าหรือหลังการพักยาว
  • ข้อยืดหยุ่นน้อยลง ทำให้การเคลื่อนไหวลดลง
  • เสียงกรอบแกรบในข้อ อาจเกิดจากการเสียดสีของกระดูกในข้อที่ไม่มีน้ำหล่อเลี้ยงเพียงพอ
  • สาเหตุที่ทำให้เป็นปัญหากระดูกและข้อ
  • โรคข้ออักเสบ เช่น ข้ออักเสบรูมาตอยด์ (Rheumatoid Arthritis), ข้อเสื่อม (Osteoarthritis)
  • การบาดเจ็บ จากการเล่นกีฬา อุบัติเหตุ หรือการใช้งานซ้ำๆ
  • การติดเชื้อ อาจทำให้เกิดข้ออักเสบจากการติดเชื้อ (Septic Arthritis)
  • โรคกระดูก เช่น โรคกระดูกพรุน , โรคกระดูกอ่อน
  • ภาวะทางพันธุกรรม เช่น โรคเบ็ดเชลสันดรอม (Ehlers-Danlos Syndrome)

แม้ว่าการทานแคลเซียมจะมีผลดีต่อกระดูก และช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุนได้ แต่การรับประทานแคลเซียมในปริมาณที่มากเกินไปไม่ได้ส่งผลดีต่อร่างกายแต่อย่างใด อีกทั้งยังทำให้เกิดโทษอีกด้วย โดยอาจเพิ่มโอกาสที่ทำให้เกิดนิ่วในไตหรือในระบบทางเดินปัสสาวะ หรืออาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจหรือโรคทางสมองบางชนิดได้ ดังนั้นควรที่จะรับประทานในปริมาณที่เหมาะสมควบคู่กับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอไปด้วยค่ะ